Breadcrumbs
Home ข่าวประชาสัมพันธ์ ►แนวทางปฏิบัติในการฉีดพ่นสารเคมีแอลกอฮอล์►แนวทางปฏิบัติในการฉีดพ่นสารเคมีแอลกอฮอล์
เขียนโดย Administrator
ข่าวประชาสัมพันธ์
กระทรวงมหาดไทยได้หารือกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องจากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีการแนะนำกรณีที่มีการฉีดพ่นสารเคมีแอลกอฮอล์ในสถานที่สาธารณะและสถานประกอบการ ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ละอองฝอยฟุ้งกระจายหากฉีดพ่นในประชาชนที่เข้าข่ายป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้ประชาชนทั่วไป ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงเกี่ยวกับคำแนะนำในการใช้สารเคมีเพื่อฆ่าเชื้อหรือทำลายเชื้อโรคต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพของสารเคมี ความเป็นพิษหรือผลกระทบต่อสุขภาพ ลักษณะการใช้งานที่เหมาะสมกับพื้นผิว ปริมาณ และระยะเวลา การตกค้างในสภาพแวดล้อม รวมทั้งสารเคมีนั้นต้องได้รับอนุญาต หรือได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยสามารถสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. ปัจจุบัน สารเคมีที่จะนำมาใช้เพื่อฆ่าเชื้อหรือทำลายเชื้อโรคในสถานที่ต่าง ๆ จะต้องได้รับอนุญาตหรือได้รับการขึ้นทะเบียนจากหน่วยงานของรัฐภายใต้บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น คุณภาพ ความเหมาะสม และความปลอดภัยในการใช้สารเคมีชนิดใด ย่อมต้องเป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต หรือได้ขึ้นทะเบียนไว้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค และกรมอนามัยมีความเห็นโดยสรุป ดังนี้
1.1 การใช้สารเคมีในการฆ่าเชื้อ เหมาะสำหรับการใช้งานบริเวณพื้นผิววัตถุ (Surface) แต่ไม่เหมาะสมกับการฆ่าเชื้อบริเวณผิวหนังของร่างกายโดยตรง เนื่องจากสารเคมีส่วนใหญ่มีฤทธิ์กัดกร่อนหากสัมผัสร่างกายโดยตรงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังหรืออาจเกิดการดูดซึมเข้าร่างกาย ทำให้เกิดอันตรายได้ ส่วนกรณีที่มีความจำเป็นจะต้องใช้สารเคมีที่อาจสัมผัสกับผิวหนังร่างกายโดยตรงควรใช้แอลกอฮอล์ (Ethyl alcohol) ความเข้มข้นร้อยละ 70 ทำความสะอาดมือเท่านั้น แต่หากมีความจำเป็นจะต้องใช้สารเคมีโดยการพ่น ควรเลี่ยงการพ่นใส่ร่างกายมนุษย์โดยตรง
1.2 น้ำยาที่ใช้พ่นหรืออุโมงค์พ่นน้ำยาส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ได้รับอนุญาต หรือได้ขึ้นทะเบียนเพื่อใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวหรือวัสดุ ไม่สามารถนำมาใช้กับผิวหนังหรือร่างกายมนุษย์ได้
2. คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ และข้อควรระวังในการนำมาใช้เพื่อกำจัดเชื้อโรค
วิธีใช้ | คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ | ข้อควรระวัง | ||
การใช้สารเคมี | 1. เหมาะกับพื้นผิวทั่วไป แต่ไม่เหมาะที่จะใช้ฆ่าเชื้อโรคบนผิวมนุษย์ 2. ต้องมีฉลาดชัดเจนและได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เท่านั้น | 1. อาจทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณผิวหนังและดวงตา 2. ควรคำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพ และสิ่งตกค้างในสิ่งแวดล้อม | ||
การใช้รังสี UV | สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ แต่เหมาะสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ทางห้องปฏิบัติการ | ไม่เหมาะสมสำหรับการฆ่าเชื้อโรคในมนุษย์และสัตว์เลี้ยง เพราะอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ | ||
การอบโอโซน | โอโซนเป็นก๊าซพิษที่มีพิษต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมและยังไม่มีผลการศึกษาที่ชัดเจนว่าสามารถฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ | ต้องดำเนินการโดยบุคลากรที่ได้รับการฝึกอบรมที่มีความชำนาญในการใช้วิธีนี้ |
3. ข้อเสนอแนะ
3.1 ในการใช้สารเคมีต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพของสารเคมี ความเป็นพิษหรือผลกระทบต่อสุขภาพลักษณะการใช้งานที่เหมาะสมกับพื้นผิว ปริมาณและระยะเวลา (Contact Time) การตกค้างในสภาพแวดล้อมรวมทั้งการอนุญาตหรือได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
3.2 ประชาชนสามารถทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคได้ด้วยตนเอง โดยการใช้แอลกอฮอล์ (Ethyl alcohol) ความเข้มข้นร้อยละ 70 ทำความสะอาดที่มือ หรือล้างมือด้วยน้ำและสบู่อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้วิธีที่ง่ายและได้ผลคือ การอาบน้ำ สระผม ทำความสะอาดร่างกายทันทีเมื่อกลับถึงที่พักอาศัย และให้นำเสื้อผ้าไปซักด้วยน้ำผสมผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้า หรือในน้ำอุณหภูมิ 60 - 90 องศาเซลเซียส
จึงขอประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติในการฉีดพ่นสารเคมีแอลกอฮอล์ให้ทราบโดยทั่วกัน
แนวทางปฏิบัติในการฉีดพ่นสารเคมีแอลกอฮอล์ | [ ] | 4414 Kb |
เทศบัญญัติ
การจัดซื้อจัดจ้าง
กองทุนหลักประกันสุขภาพ
บริการประชาชน
- ติดต่อกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน
- ร้านอาหารและที่พักในบางปู
- คำแนะนำการชำระภาษี
- เกมส์ออนไลน์ flash
- สินค้า OTOP
- จดหมายข่าวและรายงานกิจการ
- แบบฟอร์มต่างๆ
- ขั้นตอนติดต่อบริการต่างๆ
- แบบสอบถาม
- ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ AEC
- ดาวน์โหลด
- ข่าว@บางปูโพสต์
- กฏหมายที่เกี่ยวข้อง
- สถิติการให้บริการประชาชน
- คู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน ทต.บางปู
- ฐานข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่น
- สนามกีฬา และลานกีฬา
- แบบสำรวจความพึงพอใจ
- สรุปผลการสำรวจความพึงพอใจ ณ จุดบริการ
- คู่มือการปฏิบัติงานรับร้องเรียนการทุจริต