โคโรนา 2019

User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด 

          ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระจายในพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นและมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก อันส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนโดยรวม นายกรัฐมนตรีจึงได้ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 23) โดยกำหนดมาตรการควบคุมที่จำเป็นตามระดับของพื้นที่ ประกอบกับมติที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ได้เห็นชอบมาตรการและแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบกิจการ พนักงาน ผู้ใช้บริการ รวมทั้งมาตรการในการกำกับ ติดตาม และประเมินมารตรการร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
         1. กำกับให้ผู้ประกอบกิจการปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 23) หากผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามมาตรา 9 จะมีโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
         2. ควบคุม กำกับดูแล และบังคับใช้มาตรการตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขและกฎกระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหาร พ.ศ.2561 โดยหากผู้ใดฝ่าฝืนกฎกระทรวงฯ จะมีโทษตามมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
         3. กำกับให้มีการดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติสำหรับร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเพื่อกำกับ ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามมาตรการของร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเฉพาะในประเด็นต่อไปนี้
             3.1 มาตรการสำหรับเจ้าของ หรือผู้จัดการร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม
                  - ประเมินตนเองผ่านระบบ Thai Stop Covid Plus ของกรมอนามัย โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ https://stopcovid.anamai.moph.go.th/th และติดประกาศนียบัตรด้านหน้าสถานประกอบกิจการ และมีการประเมินตนเองซ้ำ โดยกรณีที่อยู่ใน "พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด" ให้ประเมินซ้ำทุก 14 วัน "พื้นที่ควบคุมสูงสุด" และ "พื้นที่ควบคุม" ให้ประเมินซ้ำทุก 1 เดือน
                  - พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มมีมาตรการในการควบคุมความแออัดของผู้ใช้บริการภายในร้านอาหาร โดยจำกัดจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้านได้ไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนที่นั่งปกติ และจัดให้มีระยะห่างระหว่างที่นั่งไม่น้อยกว่า 1 เมตร รวมทั้งให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกินเวลา 21.00 นาฬิกา และให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะของการนำไปบริโภคที่อื่นได้จนถึงเวลา 23.00 นาฬิกา
                  - พื้นที่ควบคุมสูงสุด ให้ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม มีมาตรการในการควบคุมความแออัดของผู้ใช้บริการภายในร้านอาหาร โดยจัหให้มีระยะห่างระหว่างที่นั่งไม่น้อยกว่า 1 เมตร ถ้าพื้นที่จำกัด อาจใช้ฉากกั้นระหว่างผู้นั่งรับประทานอาหาร และให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 นาฬิกา
                  - พื้นที่ควบคุม ให้ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม มีมาตรการในการควบคุมความแออัดของผู้ใช้บริการภายในร้านอาหาร เช่น การจองคิวหรือนัดหมายล่วงหน้า การเว้นระยะห่างระหว่างผู้ใช้บริการ เป็นต้น และให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ภายในกำหนดเวลาปกติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
             3.2 มาตรการสำหรับผู้ปฏิบัติงาน
                  - ประเมินตนเองก่อนออกจากบ้านและก่อนปฏิบัติงานด้วยแอพพลิเคชั่นที่ทางราชการกำหนด เช่น Thai Save Thai เป็นต้น โดยเข้าที่เว็บไซต์ https://stopcovid.anamai.moph.go.th/th
             3.3 มาตรการสำหรับผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการ
                  - ลงทะเบียนประเมินตนเองก่อนเข้าใช้บริการสถานประกอบการทุกครั้ง เช่น ไทยชนะ หรือ Thai Save Thai หรือหากมีอาการเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ งดไปใช้บริการ

ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 23)