มลพิษทางเสียง

Moderator: admin

มลพิษทางเสียง

โพสต์โดย klang » 30 ม.ค. 2011 00:18

คืนวันเสาร์ที่ 29 มกราคม 2554 ที่เคหะชุมชนสมุทรปราการ มีการจัดงานประชาสัมพันธ์โครงการธนาคารขยะของชุมชนโดยถือเอาวันดังกล่าวเป็นวันเปิดตัวกิจกรรมและจ่ายเงินปันผลให้แก่สมาชิกธนาคารขยะทุกคน ภายใต้การกำกับดูแลโดยทีมงาน/ผู้บริหารธนาคารขยะ สิ่งที่จะบอกเล่าในที่นี่จะไม่เน้นที่ตัวโครงการมากนักแต่ก็ขอกล่าวไว้บ้าง เพื่อให้เข้าใจว่าการนำเสนอเรื่องนี้ไม่ได้มีอคติหรือวัตถุประสงค์อื่นใดแอบแฝง

ผู้เขียนรู้สึกเห็นด้วยและคิดว่าโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการที่สร้างสรรค์และส่งเสริมให้ทุกคนร่วมกันรักษาความสะอาดและรู้จักคัดแยกขยะตามวัตถุประสงค์ของการรณรงค์นั่นเอง ผลของความสำเร็จของงานคงจะสร้างความปลาบปลื้มและภาคภูมิใจให้แก่ทีมงานและผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลายปี ทีมงานผู้จัดงานก็สร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคมเสมอมา ในส่วนนี้ จึงขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จทั้งหมดที่ผ่านมาและครั้งล่าสุด ผู้เขียนขอร่วมอนุโมทนาในการสร้างความดีของทีมงานทุกท่าน

แต่สิ่งที่จะกล่าวคือ ผลกระทบของการจัดงานที่หลายฝ่ายโดยเฉพาะทีมงานอาจจะมองไม่เห็น หรืออาจมองเห็นบ้างแต่ไม่ได้ใส่ใจว่ามันคือปัญหาเท่าที่ควรเพราะทุกคนต่างมองไปที่เป้าหมายหรือความสำเร็จของงานเป็นสำคัญโดยไม่ได้มองถึงผลกระทบที่อาจสร้างความเดือดร้อนต่อผู้อื่น โดยเข้าใจว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบคือ ส่วนน้อย ไม่มีความสำคัญ และเจ้าตัวปัญหานั้นก็คือ “มลพิษทางเสียง”

หลายครั้งหลายคราที่ชุมชนแห่งนี้มักจะถูกเลือกให้จัดกิจกรรมต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากมายทั้งงานรื่นเริง สังสรรค์ กิจกรรมกีฬา กิจกรรมสร้างความบันเทิงต่าง ๆ เป็นต้น โดยสถานที่จัดงานคือ บริเวณสนามกีฬาของหมู่บ้าน ทั้ง สนามฟุตบอล สนามบาสเก็ตบอล และเวทีลานแอโรบิคส์ และทุกครั้งที่มีการจัดงาน จะมีการใช้เครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่เปิดกระจายเสียงเพื่อประชาสัมพันธ์และเพื่อความบันเทิง โดยไม่ทราบว่าเครื่องเสียงที่ถูกเปิดในแต่ละครั้งเป็นของผู้ใดที่ได้รับสัมปทานให้เข้ามาจัด ถึงแม้ว่าจะทราบแต่ก็ต้องอาศัยผู้ที่ให้สิทธิในการสถานที่เข้าไปควบคุมดูแลโดยตรง ในส่วนของการประชาสัมพันธ์ข่าวสารที่มีประโยชน์ต่อชุมชนหรือส่วนรวม ย่อมเป็นสิ่งที่พึงกระทำอยู่แล้ว แต่ในส่วนของความบันเทิง ยังมีหลายสิ่งที่ผู้อยู่อาศัยคิดว่า ทางทีมงานผู้เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญและปรับปรุงเป็นการเร่งด่วนนั่นคือ การสร้างระบบหรือมาตรฐานในการจัดงาน การพูดถึงเรื่องนี้คงจะเป็นการปฏิรูปการจัดการที่ผู้ที่เกี่ยวข้องควรต้องเข้าไปดูแลโดยเฉพาะ เพราะระดับเสียงที่ใช้หรือสร้างความบันเทิงอยู่ในข่ายที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น ไม่ได้มาตรฐานข้อกำหนดการใช้เสียงในชุมชน ซึ่งการวัดค่าของเสียงที่เกินกำหนดการได้ยินของมนุษย์ ถ้าพูดตามหลักวิชาการ คงต้องอ้างอิงจากค่าที่วัดได้หรือต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์สำหรับการวัดค่าดังกล่าว แต่ในความเป็นจริงที่เราไม่มีสิ่งเหล่านี้ การวัดผลจึงสามารถวัดได้โดยง่ายด้วยการใช้วิธีการได้ยินโดยปกติของคนทั่วไป ถ้าเสียงที่ได้ยินมีระดับที่ดังเกินไปและทนเสียงเหล่านั้นไม่ไหว เราจะรู้ได้โดยธรรมชาติถ้าเรายังคงประสาทการได้ยินในแบบปกติอยู่ แต่ผลกระทบของการได้ยินเสียงที่ดังมากเกินไป ไม่เพียงแต่กระทบต่อการได้ยินของเรา แต่ยังส่งผลให้สิ่งแวดล้อมบริเวณที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบไปด้วย ตัวอย่างที่เห็นเด่นชัดคือ ผนังบ้าน เพดาน และหน้าต่างที่บ้านเรือนส่วนใหญ่ในหมู่บ้าน บางส่วนที่เป็นกระจก จะส่งเสียงดัง สะเทือนคล้ายกับมีบางสิ่งบางอย่างกำลังเคาะหรือกระแทกอย่างแรง ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบ้าน เพดานก็จะส่งเสียงดังตึกตัก ๆ ตลอดจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขนัก ซึ่งต้องคอยลุ้นว่าอาจเกิดความเสียหายต่อกระจกหน้าต่างที่อาจจะแตกในเวลาใดเวลาหนึ่งก็เป็นได้ แต่ถ้าข้าวของไม่ได้รับความเสียหาย เสียงที่ดังเกินไปก็ยังคงคุกคามต่อการใช้ชีวิตปกติของคนทั่วไปและควรจัดว่าเป็นมลพิษทางเสียงที่ร้ายแรงอย่างหนึ่ง

ถ้าคุณไม่เคยพบกับประสบการณ์ดังเช่นผู้เขียน ขอให้คุณจินตนาการว่า คุณกำลังอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านแสนสุขแห่งหนึ่งซึ่งปัจจุบันกลายเป็นหมู่บ้านยอดฮิตประหนึ่งเหมือนกับเวทีคอนเสิร์ทของสนามกีฬาอิมแพค อารีน่า ยกมาอยู่ข้างบ้านคุณ ถ้าคุณชอบความบันเทิงทางเสียง คุณคงจะเพลิดเพลินกับงานรื่นเริงตลอดทั้งปีที่นี่ แต่ถ้าคุณไม่ชอบหรือเคยชอบและตระหนักภายหลังว่างานรื่นเริงของส่วนรวมทำให้คุณไม่สามารถทำกิจกรรมส่วนตัวของคุณเองหรืออยู่อย่างปกติสุขได้ ผู้เขียนกำลังหมายถึงสิ่งที่คุณต้องทำใจและหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ การต้องทนอยู่ในสถานที่ที่มีการจัดงานตลอดเกือบทั้งปี และในแต่ละครั้งที่มีงานรื่นเริง คุณต้องทนเสียงมฤตยูที่ดังผิดปกติร่วมประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นในเวลากลางวันหรือกลางคืน ระดับเสียงโดยส่วนใหญ่ถูกกำหนดขึ้นตามความพอใจของผู้ควบคุมเสียงหรือผู้จัดและคำนึงเฉพาะแต่ในส่วนของการสร้างบรรยากาศของงานให้ดูสนุกสนานเป็นอันดับแรก โดยละเว้นในการให้ความสำคัญของผลกระทบด้านเสียงต่อผู้อื่น เมื่อคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมดังที่กล่าว สิ่งที่ตามมาของชะตากรรมผู้อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าวจะมีตัวเลือกให้คุณเลือกได้น้อยมากนั่นคือ

(1). การยอมจำนน เพราะไม่สามารถย้ายบ้านหนีไปยังที่อื่นได้ หรือหากคุณอยู่อาศัยมาหลายปี ก็จะถูกคนเข้าใจว่าเคยชินแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ซึ่งในความเป็นจริง เป็นการคิดฝ่ายเดียวของผู้จัดงานมากกว่า และการพูดหรือแสดงความต้องการที่แท้จริงของตัวเองออกมาอย่างถูกต้องตามสิทธิของประชาชนคนหนึ่งก็อาจถูกเพื่อนบ้านบางคนมองว่า เราเป็นแกะดำ
(2). การร้องเรียน คุณสามารถเดินไปบอกกับทีมงานหรือผู้จัดงาน ให้ลดระดับเสียงลงมาหน่อยหรือให้น้อยกว่าเดิมเพื่อให้ผนัง กำแพง หน้าต่างของคุณ หยุดการสั่นไหว แต่คุณจะไม่ได้อย่างที่คุณร้องขอ เพราะจากประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้เจอ นอกจากการถูกเพิกเฉย คุณจะถูกมองว่าเป็นตัวตลก หรือถูกเข้าใจว่าเราไม่ได้ให้ความสำคัญต่อผลประโยชน์ส่วนรวม หรือถ้าคุณร้องเรียนหรือร้องขอกับทีมงานไปแล้ว ยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการ คุณก็ยังสามารถแจ้งกับสถานีตำรวจใกล้บ้านได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้ทีมงานลดระดับเสียงลงไปแล้ว แต่ภายหลังไม่นาน เสียงก็ยังดังมากเหมือนเดิมอีก จึงไม่เข้าใจว่าทำไม ทางทีมงานถึงเพิกเฉยต่อคำเตือนของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย? ซึ่งในที่สุด ผู้เขียนจึงขอเลือกอีกวิธีคือ การบอกเล่าประสบการณ์นี้ให้กับสาธารณชนได้รับทราบเพื่อจะได้นำเอาไปเป็นกรณีศึกษาเพื่อจะได้หาวิธีป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องเจอสถานการณ์ในแบบเดียวกันกับผู้เขียน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในอดีตเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ที่ทนต่อปัญหานี้ไม่ไหวต้องย้ายที่อยู่ใหม่ที่ห่างไกลต่อมลพิษทางเสียง สำหรับผู้อยู่อาศัยที่เหลือคงทำอะไรได้ไม่มาก เพราะยังไม่มีวีรบุรุษ วีรสตรีที่จะเข้ามาพิทักษ์ปกป้องสิทธิให้กับพวกเขา ดังนั้น ที่ทำได้ตอนนี้คือ การกลับไปปฏิบัติตามข้อ (1) การยอมจำนน นั่นเอง

แนวทางที่เป็นไปได้สำหรับการปรับปรุงแก้ไขมลพิษทางเสียงในชุมชน

1.สถานที่สำหรับจัดงาน ควรเลือกสถานที่ที่ห่างไกลหรือเหมาะสมพอสำหรับการจัดงานรื่นเริงที่จำเป็นต้องใช้เสียงดังในระดับหนึ่ง แต่ในกรณีนี้ สถานที่จัดงานอยู่กลางชุมชน ไม่สามารถย้ายไปจัดยังสถานที่อื่นได้ ก็ควรเน้นไปที่ระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ การควบคุมและกำหนดระดับเสียงที่เหมาะสมไม่กระทบต่อผู้อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าว

2.ทีมงานหรือผู้จัดงาน ควรให้ความสำคัญและใส่ใจต่อเรื่องนี้เป็นพิเศษ ไม่ว่าคุณจะเลือกใครมาสัมปทานการจัดงานในแต่ละครั้ง ก็ต้องกำหนดให้พวกเขาใช้ระบบที่เป็นมาตรฐานสำหรับสถานที่แห่งนี้ด้วย เพราะกิจกรรมสร้างความสุขต่อส่วนรวมโดยส่วนใหญ่ล้วนคงไว้ซึ่งวัตถุประสงค์คือ ความสงบสุขและประโยชน์สุขต่อส่วนรวมและเคารพต่อสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่นด้วย ระมัดระวังการใช้เครื่องมือหรือวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัย ในกรณีนี้ เสียงที่ดังเกินไป คือ ตัวปัญหา ทีมงานควรจัดหาผู้เชี่ยวชาญ มืออาชีพ ซึ่งต้องเป็นบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการควบคุมเสียงโดยตรง

3.เสียง เป็นเสียงที่กำเนิดจากเครื่องกระจายเสียง เป็นสิ่งที่สามารถควบคุมได้โดยมนุษย์ และไม่ควรยึดติดกับกับคำพูดที่ว่า “ถ้าไม่เปิดเสียงดัง (มากเกินไป) งานก็คงไม่สนุก” ในความจริง ทีมงานผู้ควบคุมระบบเสียง สามารถเข้ามามีบทบาทในการควบคุมไม่ให้เสียงที่ออกมาดังจนเกินไปและกลายเป็นมลพิษทางเสียง ควรตั้งค่าหรือจัดระดับเสียงที่เป็นมาตรฐานสำหรับใช้ชุมชนหรือจัดกิจกรรมงานรื่นเริงต่าง ๆ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่างานที่จัดจะมีขนาดเล็ก ขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ก็ตาม ควรจะมีมาตรวัดที่ชัดเจนและควบคุมได้ ถ้าสามารถทำให้เป็นระบบที่ชัดเจนได้ ก็จะลดข้อกล่าวหาหรือข้อร้องเรียนจากผู้อยู่อาศัยในชุมชนได้ โดยพึงระลึกเสมอว่า “เสียงของความบันเทิงต่าง ๆ ควรจะสร้างความบันเทิงให้กับทุกคน ไม่ใช่สร้างความขมขื่นให้เกิดขึ้นในใจ” ที่สำคัญ หลังจากสร้างมาตรวัดที่ชัดเจนแล้ว นอกจากแจ้งขออนุญาตผู้อยู่อาศัยในแต่ละครั้งที่จัดงานแล้ว ยังควรประชาสัมพันธ์ให้ผู้อยู่อาศัยรับทราบด้วยว่า งานรื่นเริงที่จัดในแต่ละครั้งมีลักษณะหรือขนาดใดและจะใช้ระดับเสียงเท่าใด คิดว่าน่าจะเป็นการยกระดับอะไรบางอย่างสำหรับการทำหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้อง

หมายเหตุ การวัดระดับเสียง สามารถทำได้โดยง่าย ๆ คือ ทดสอบการเปิดคลื่นเสียงและทำแบบสอบถามความพึงพอใจหรือสัมภาษณ์กับผู้อยู่อาศัยในละแวกเดียวกัน ในที่สุดจะได้คลื่นเสียงหรือระดับเสียงที่ทุกคนยอมรับได้ โดยต้องยึดหลักที่ว่าเสียงนั้นต้องไม่สร้างแรงสั่นสะเทือที่มีผลเสียต่อผู้อยู่อาศัย การใช้ชีวิตที่ปกติสุข และต่อข้าวของ อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน

ขอบคุณสำหรับการติดตามทั้งหมด หากท่านผู้อ่านมีข้อเสนอแนะใด ๆ ที่เป็นประโยชน์ ผู้เขียนขอความกรุณาผู้อ่านทุกท่านสละเวลาแสดงความเห็นด้วย ขอขอบคุณอีกครั้ง และเป็นการโชคดีสำหรับผู้เขียนจริง ๆ ที่วัดซึ่งตั้งอยู่หลังหมู่บ้านไม่ได้จัดงานพร้อมกันในวันเดียวกันเหมือนเช่นเคย ไม่งั้นคุณจะได้ยินเสียงของเครื่องกระจายเสียงดังทั้งสองแห่งปะทะกันและคุณคือ สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่ต้องอยู่ท่ามกลางศึกประลองเสียงนั่นเอง :D
klang
 
โพสต์: 15
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.ย. 2010 14:18

ย้อนกลับไปยัง เรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์ ปัญหาต่างๆ

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน

cron